XM ไม่ได้ให้บริการแก่ผู้ที่พำนักอยู่ในสหรัฐอเมริกา
6 ประเภทสินทรัพย์ พร้อม 10 แพลตฟอร์มซื้อขาย และตราสารมากกว่า 1000 ตัว
ซื้อขายฟอเร็กซ์, หุ้นรายตัว, สินค้าโภคภัณฑ์, โลหะมีค่า, พลังงาน, และดัชนีที่ XM
ที่ XM ลูกค้าสามารถเลือกทำการเทรดโดยใช้ระดับของมาร์จิ้นและเลเวเรจเริ่มตั้งแต่ 1:1 ไปจนถึง 1000:1
มาร์จิ้นเป็นหลักทรัพย์ประกันที่ใช้สำหรับรองรับความเสี่ยงเกี่ยวกับเครดิตในช่วงการเทรด
มาร์จิ้นจะถูกแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ของขนาดโพซิชั่น (เช่น 5% หรือ 1%), และเหตุผลที่จะต้องมีเงินทุนในบัญชีซื้อขายของคุณคือเพื่อให้มีมาร์จิ้นเพียงพอ ยกตัวอย่างเช่น สำหรับมาร์จิ้น 1% โพซิชั่นขนาด $1,000,000 ต้องการเงินในบัญชี $10,000
สำหรับฟอเร็กซ์, ทองคำ และเงิน คุณจะสามารถเปิดโพซิชั่นใหม่ได้ถ้าหากมาร์จิ้นที่ต้องใช้สำหรับโพซิชั่นใหม่เท่ากับหรือน้อยกว่าฟรีมาร์จิ้นของบัญชี เมื่อทำการเฮดจ์ คุณจะสามารถเปิดโพซิชั่นขึ้นมาได้ถึงแม้ว่าระดับมาร์จิ้นจะต่ำกว่า 100% ก็ตาม เนื่องจากมาร์จิ้นที่ต้องใช้สำหรับโพซิชั่นที่ถูกเฮดจ์นั้นเท่ากับศูนย์
สำหรับตราสารตัวอื่นๆ คุณจะสามารถเปิดโพซิชั่นใหม่ได้ถ้าหากมาร์จิ้นที่ต้องใช้สำหรับโพซิชั่นใหม่เท่ากับหรือน้อยกว่าฟรีมาร์จิ้นของบัญชี เมื่อทำการเฮดจ์ มาร์จิ้นที่ต้องใช้สำหรับโพซิชั่นที่ถูกเฮดจ์จะเท่ากับ 50% คุณสามารถเปิดโพซิชั่นที่ถูกเฮดจ์ใหม่ได้ถ้าหากมาร์จิ้นที่ต้องใช้สุดท้ายเท่ากับหรือน้อยกว่าอิควิตี้รวมของบัญชี
ที่ XM เลเวอเรจของดัชนีเงินสดและฟิวเจอร์ส และ CFD ของพลังงานเงินสดจะปรับโดยอัตโนมัติ เลเวอเรจที่ท่านได้รับจะเป็นเลเวอเรจที่ต่ำที่สุดระหว่าง (i) เลเวอเรจในบัญชีซื้อขายของท่าน และ (ii) เลเวอเรจของ CFD ที่ซื้อขาย
การคำนวณมาร์จิ้นจะได้รับการดำเนินการแยกกันเป็นรายตราสาร ซึ่งหมายความว่า เมื่อท่านเปิดฐานะสัญญาบนตราสารหลายตัว มาร์จิ้นจะได้รับการคำนวณแยกกันสำหรับแต่ละฐานะสัญญา
ในตัวอย่างด้านล่างนี้ ท่านสามารถดูวิธีที่มาร์จิ้นตามราคาตลาดได้รับการคำนวณสำหรับดัชนีเงินสดและฟิวเจอร์ส และ CFD ของพลังงานเงินสด โปรดทราบว่า ตัวอย่างนี้มีไว้เพื่อจุดประสงค์ในการอธิบายเท่านั้น และไม่ควรนำไปใช้ในการคำนวณการซื้อขาย
มาร์จิ้นที่กำหนด = [Lots*ขนาดสัญญา* ราคาเปิด] / [ที่ต่ำที่สุดระหว่าง (เลเวอเรจของบัญชี, เลเวอเรจของตราสารนั้น)]
สูตรของดัชนีข้างต้นแสดงให้เห็นว่า เลเวอเรจในการเปิดสัญญาซื้อขายอยู่ในระดับต่ำที่สุดระหว่างเลเวอเรจบัญชีและเลเวอเรจที่กำหนด
ตัวอย่างที่ 1 : สมมติว่าท่านซื้อขาย US30Cash จำนวน 10 lot ที่ราคาเปิด 34,500 USD ด้วยสกุลเงินหลักของบัญชี USD และเลเวอเรจของบัญชีอยู่ที่ 1:200 แต่เลเวอเรจสำหรับ US30Cash จะอยู่ที่ 500
มาร์จิ้นที่กำหนดสำหรับการเปิดสัญญาซื้อขาย US30Cash (ตัวอย่างที่ 1) = (10*1*34,500) / 200 = $1,725
ตัวอย่างที่ 2 : สมมติว่าท่านซื้อขาย US30Cash จำนวน 15 lot ที่ราคาเปิด 34,500 USD ด้วยสกุลเงินหลักของบัญชี USD และเลเวอเรจของบัญชีอยู่ที่ 1:888 แต่เลเวอเรจสำหรับ US30Cash จะอยู่ที่ 500
มาร์จิ้นที่กำหนดสำหรับการเปิดสัญญาซื้อขาย US30Cash (ตัวอย่างที่ 2) = (15*1*34,000) / 500 = $1,035
โดยการใช้เลเวอเรจหมายความว่าท่านสามารถซื้อขายโพซิชั่นมากกว่าจำนวนเงินในบัญชีซื้อขายของท่าน จำนวนเลเวอเรจถูกแสดงเป็นอัตราส่วน ตัวอย่างเช่น 50:1, 100:1, หรือ 500:1 สมมติว่าท่านมีเงิน $1,000 อยู่ในบัญชีซื้อขายและท่านทำการซื้อขายขนาด 500,000 USD/JPY, เลเวอเรจของท่านจะเท่ากับ 500:1
เป็นไปได้อย่างไรที่ท่านสามารถทำการซื้อขายเป็นจำนวนมากถึง 500 เท่าของจำนวนเงินที่ท่านถืออยู่ ? ที่ XM ท่านมีฟรี เครดิตระยะสั้น เมื่อใดก็ตามที่ท่านซื้อขายด้วยมาร์จิ้น: สิ่งนี้จะทำให้ท่านสามารถทำการซื้อได้มากกว่าจำนวนเงินในบัญชีของท่าน หากไม่มีเครดิตนี้ท่านสามารถทำการซื้อขายได้เพียงแค่ครั้งละ $1,000
ที่ XM ท่านสามารถเลือกระดับของเลเวเรจได้ตั้งแต่ 1:1 ไปจนถึง 1000:1 ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีที่ท่านได้เปิดไว้ โดยระดับของมาร์จิ้นที่ต้องใช้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงสัปดาห์หรือในช่วงข้ามคืนหรือวันหยุดสุดสัปดาห์ นอกจากนี้ที่ XM ท่านยังสามารถเลือกที่จะเพิ่มหรือลดเลเวอเรจได้ตามที่ท่านต้องการ
การใช้เลเวอเรจทำให้ท่านสามารถทำกำไรได้มากแม้ว่าท่านมีเงินตั้งต้นเป็นจำนวนน้อย แต่ในทางกลับกันท่านสามารถขาดทุนได้มากเช่นกันถ้าท่านขาดการจัดการความเสี่ยงที่ถูกต้อง
นี่คือเหตุผลที่ XM ให้มีระยะขนาดของเลเวอเรจให้ท่านเลือกให้เหมาะกับความเสี่ยงของท่าน ในเวลาเดียวกัน เราไม่แนะนำให้ท่านซื้อขายที่ใกล้เคียงเลเวอเรจ 1000:1 เนื่องจากมีความเสี่ยงที่มาก
ที่ XM ท่านสามารถควบคุมความเสี่ยงแบบรีลไทม์ด้วยการตรวจสอบมาร์จิ้นที่ใช้ไปและที่เหลืออยู่
มาร์จิ้นที่ใช้ไปและที่เหลืออยู่รวมกันคือเงินทุนของท่าน มาร์จิ้นที่ใช้ไป คือจำนวนเงินที่ท่านต้องทำการฝากเพื่อทำการซื้อขาย ( เช่น ถ้าท่านตั้งให้บัญชีมีเลเวอเรจ 100:1, มาร์จิ้นที่ต้องการเผื่อไว้คือ 1% ของขนาดของการซื้อขาย) มาร์จิ้นที่เหลืออยู่ คือจำนวนเงินที่เหลืออยู่ในบัญชีของท่านซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงตามเงินทุนของท่าน; ท่านสามารถทำการเปิดโพซิชั่นเพิ่มเติมด้วยส่วนนี้หรือให้เพื่อชดเชยกับการขาดทุน
แม้ว่าลูกค้าแต่ละท่านจะต้องกับผิดชอบต่อการตรวจดูการดำเนินการของบัญชีของตนเอง XM ปฏิบัติตามนโยบาย margin call เพื่อให้แน่ใจว่าความเสี่ยงที่สูงสุดของท่านไม่เกินเงินทุนที่ท่านมี
เมื่อใดก็ตามที่เงินทุนของท่านลดลงมากกว่า 100% ของมาร์จิ้นที่จำเป็นในการรักษาโพซิชั่นเปิดของท่าน เราจะพยายามที่จะแจ้งให้ท่านทราบด้วยการเตือน margin call ว่าท่านมีเงินทุนไม่เพียงพอที่จะรักษาโพซิชั่นนั้นได้
ระดับ stop-out เป็นระดับของอิควิตี้ที่จะทำให้เกิดการปิดโพซิชั่นที่เปิดอยู่ของท่านโดยอัตโนมัติ บัญชีของลูกค้ารายย่อยจะถึงระดับ stop-out เมื่ออิควิตี้ที่มีอยู่ในบัญชีซื้อขายเท่ากับหรือลดลงเหลือน้อยกว่า 50% ของมาร์จิ้นที่ต้องใช้
คำเตือนความเสี่ยง: เงินทุนของท่านมีความเสี่ยง ผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราทดอาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนบางราย โปรดศึกษาและทำความเข้าใจเอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงของเรา
การคลิกปุ่ม "เข้าร่วม" หมายถึง ท่านได้ยินยอมให้ Trading Point of Financial Instruments Ltd ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้ผ่านทางแชทออนไลน์ เพื่อขอรับความช่วยเหลือจากแผนกลูกค้าสัมพันธ์ของเรา ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
ถ้าหากท่านไม่ยินยอมตามข้อความข้างต้นนี้ ท่านยังสามารถเลือกที่จะติดต่อเราผ่านทางพื้นที่สำหรับสมาชิกหรือที่ thai.support@xm.com ได้
การพูดคุยทางโทรศัพท์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมถึงการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ (รวมถึงข้อความแชทหรืออีเมล) ระหว่างเราและท่านจะถูกบันทึกและจัดเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบคุณภาพ, การฝึกอบรม และการปฏิบัติตามระเบียบ